ในวันที่สตรีสูงศักดิ์แห่งสกุลเซี่ย เซี่ยหวั่นอินอภิเษกสมรสกับรัชทายาทหลี่ฉือวันนั้น นางกลับบังเอิญพบเห็นการไล่ล่าที่โหดเหี้ยมอำมหิต ซึ่งก็คือตงฟางจุ้ย ราชครูผู้บริสุทธิ์สูงส่งสง่างามในตำนานยิงสังหารพ่อตาของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ปัจจุบันอย่างสบายอารมณ์ ใบหน้าเจือไปด้วยรอยยิ้ม
เพราะเหตุนี้เองเซี่ยหวั่นอินจึงกลายเป็นเหยื่อของราชครู เป็นไปตามคาด ภายใต้การปลุกปั่นด้วยแผนชั่วร้ายของตงฟางจุ้ย พิธีอภิเษกระหว่างเซี่ยหวั่นอินกับรัชทายาทเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกตะลึง แต่สิ่งที่ทำให้เซี่ยหวั่นอินประหลาดใจคือ ตงฟางจุ้ยไม่ได้อยากสังหารนางเพื่อปิดปาก แต่กลับใช้ทั้งตระกูลเซี่ยมาข่มขู่ บีบบังคับให้เซี่ยหวั่นอินกลายเป็นฮูหยินของราชครู
ผู้คนต่างเล่าลือกันว่าราชครูผู้สวมชุดขาวมีน้ำใจกว้างขวางเป็นคนเปิดเผย มีเพียงเซี่ยหวั่นอินเท่านั้นที่รู้ว่าเขาคือคนเสียสติที่โหดเหี้ยมอำมหิต ชั่วช้าสามานย์สุดขีด เซี่ยหวั่นอินที่ยอมตายยังดีกว่ายอมก้มหัว นิสัยใจคอเฉียบขาดกล้าหาญตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะสังหารคนเสียสติคนนี้ คืนวันวิวาห์กับเขา เซี่ยหวั่นอินวางแผนมาเนิ่นนาน
ตัดสินใจลงมือ แต่นางคิดไม่ถึงว่าตงฟางจุ้ยจะแย้มยิ้มสดใสพลางมองเซี่ยหวั่นอินที่ถือกริชอยู่ในมือ พร้อมกับจับมือนางไว้แน่น แล้วเป็นฝ่ายชักนำให้นางแทงปลายกริชมาที่หัวใจของตนเอง “ฮูหยินอยากสังหารข้า บอกข้ามาคำเดียวก็จบแล้ว ไม่ต้องลำบากขนาดนี้หรอก” นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เซี่ยหวั่นอินเริ่มต่อสู้กับสามีของตนเองผู้เป็นราชครูด้วยปัญญาและความกล้าหาญ
ทว่านางค่อย ๆ พบว่าตงฟางจุ้ยมีความละม้ายคล้ายคลึงกับสหายเก่าเมื่อครั้นเยาว์วัยคนหนึ่งของนาง และแผนการชั่วร้ายตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาซึ่งเกี่ยวพันถึงคนสองรุ่น ก็ค่อย ๆ เผยเขี้ยวเล็บของมันออกมาเบื้องหลังของทั้งคู่