The Gray Man ล่องหนฆ่า (2022) NETFLIX
ถ่ายทอดของเจ้าหน้าที่ CIA ระดับสูงนาม “คอร์ท เจนทรี” (ไรอัน กอสลิง) อดีตนักโทษที่ถูก “โดนัลด์ ฟิตซรอย” (บิลลี่ บ็อบ ธอร์นตัน) ดึงตัวมาทำงานเป็นนักฆ่ามือฉมัง ออกปฏิบัติการในชื่อรหัส “เซียร์รา ซิกซ์” แต่ในที่สุดสถานการณ์กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ดูหนังออนไลน์ เมื่อซิกซ์กลายเป็นเหยื่อและถูกหมายหัวโดยอดีตเพื่อนร่วมงานที่ CIA อย่าง “ลอยด์ แฮนเซ่น” (คริส อีแวนส์) ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา ที่ออกไล่ล่าเขาไปทั่วทุกมุมโลกเพื่อหวังกำจัดซิกซ์ให้ราบคาบ โดยมีอีกหนึ่งสปายอย่าง “ดานี่ มิแรนด้า” (อนา เดอ อาร์มาส) ดูหนังฟรี ที่พร้อมจะยื่นมือช่วยเหลือเจนทรีในศึกสายลับสุดระทึกครั้งนี้ ดูหนัง
นักโทษหนุ่มที่โดนัลด์ ฟิตซรอย ( บิลลี่ บ็อบ ธอร์นตัน) ติดต่อให้เป็นสายลับของซีไอเอ ไร้ตัวตน เป็นคนล่องหน ในโครงการเซียร์ร่า ภายใต้ชื่อใหม่ หมายเลขหก คอยทำภารกิจลับให้ซีไอเอ เพื่อแลกกับการพ้นโทษในคุก ทำทั้งงานยากงานง่าย ไม่ว่าจะขึ้นเหนือลงใต้เขาทำให้ได้หมด แต่แล้ววันหนึ่งถูกสั่งเก็บแบบไม่ทันตั้งตัว
เพราะดันไปรู้ความลับบางอย่าง ทำให้หกต้องสู้เต็มที่เพื่อปกป้องคนที่เขารักและเปิดโปงความลับ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปรับชมกันต่อทาง netflix หนังยาว 129 นาทีมีพากย์ไทย
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะติดตามเรื่องราวของ Six (Ryan Gosling) นักฆ่าล่องหนที่ทำงานให้กับ CIA เขาเป็นอดีตนักโทษที่ถูกใช้ให้ทำงานเพื่อแลกกับอิสระภาพ เขาทำงานให้กับหน่วยงานมาเป็นเวลานาน จนในวันหนึ่ง เขาได้รับภารกิจให้สังหารชายปริศนาคนหนึ่ง และก่อนที่เขาจะสังหาร ชายคนนั้นก็ได้บอกความลับที่อยู่เบื้องหลังของหน่วยงานเขา
พร้อมกับให้หลักฐานสำคัญไว้กับเขา ด้วยเหตุนี้ ทำให้เขาถูกตั้งค่าหัว และถูกผู้มีอำนาจส่งนักฆ่าจากทั่วโลกเพื่อไล่ตามเขา โดยนักฆ่าเหล่านั้น นำทีมโดย Lloyd Hansen (Chris Evans) นักฆ่ารับจ้างสุดโรคจิตที่สนใจเพียงแค่ผลลัพธ์ ต่อให้มีคนบริสุทธิ์โดนลูกหลงเขาก็ไม่สน สุดท้ายแล้ว Six จะสามารถหนีรอดจากการไล่ล่าครั้งนี้ได้หรือไม่
เซียร์ร่า ซิกซ์ (Sierra Six) รับบทโดย ไรอัน กอสลิ่ง (Ryan Gosling) เป็นนักฆ่าที่ถูกเจ้าหน้าที่อาวุโสซีไอเอมอบอิสระให้แก่เขา ขณะที่ถูกคุมขังในคุก แต่ต้องแลกกับการเป็นนักฆ่าในโครงการเซียร์ร่า 18 ปีต่อมา ซิกซ์มาทำภารกิจลอบสังหารที่กรุงเทพฯ กับเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ดานิ มิแรนด้า (Dani Miranda) รับบทโดย อนา เดอ อาร์มาส (Ana de Armas) งานนี้ทำให้เขารับรู้ถึงความลับเกี่ยวกับการทุจริตภายในองค์กร
รับบทโดย คริส อีแวนส์ (Chris Evans) ทหารรับจ้างให้ตามล่าซิกซ์ เขาได้จับเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่มอบอิสระแก่ซิกซ์ และ แคลร์ (Claire) รับบทโดย จูเลีย บัตเตอร์ (Julia Butters) เป็นตัวประกัน เพื่อหวังให้ซิกส์มามอบตัว แต่สุดท้ายซิกส์ก็สามารถหลบหนีไปได้ เพราะการช่วยเหลือของมิแรนด้า และพบว่าเอกสารทุจริตมีเครือข่ายเกี่ยวกับรัฐบาลเงา
หลังจากที่ลอยด์สามารถหลอกล่อให้ซิกส์มาติดกับเขาได้ เขาก็ปล่อยแคลร์จากการเป็นตัวประกัน จากนั้นฉากดวลหมัดของทั้งสองคนก็เกิดขึ้น แต่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ แฮนเซ่นก็โดนจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ซีไอเอ นอกจากนี้เธอจะจับกุมซิกส์ด้วย แต่เขาก็สามารถหลบหนีออกไปได้ ทำให้ลอยด์ แฮนเซ่นถูกรับโทษเพียงคนเดียว สามารถติดตามเรื่องราวเต็ม ๆ ได้ในหนัง The Gray Man ทางเน็ตฟลิกซ์
เซียร์ร่า ซิกซ์ รับบทโดย ไรอัน กอสลิ่ง นักแสดงที่เคยรับบาทสำคัญในภาพยนตร์ดังหลายเรื่องอย่าง La La Land (2016), First Man (2018) ส่วน คริส อีแวนส์ รับบทเป็น ลอยด์ แฮนเซ่น ก็เป็นนักแสดงที่มีภาพจำจากการรับบทเป็น กัปตันอเมริกาในจักรวาลหนัง Marvel Cinematic Universe ทั้งสองได้กลับมาดวลปืนชนหมัดกันอีกครั้งใน The Gray Man การได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้จึงการันตีได้ถึงคุณภาพของนักแสดงอย่างแน่นอน
แม้ตัวหนังจะอิงจากนิยายขายดีชื่อเดียวกันในปี 2009 ที่สร้างชื่อให้ มาร์ก เกรียนีย์ (Mark Greaney) แจ้งเกิดจนกลายเป็นนักเขียนแนวสายลับผู้ได้รับไม้ต่อให้สืบทอดตำนานของปรมาจารย์อย่าง ทอม แคลนซี (Tom Clancy) ในเวลาต่อมา แต่กว่ามันจะถูกดัดแปลงมาสู่หนังก็ผ่านมาถึงหนึ่งรอบนักษัตร แน่นอนว่าพล็อตหรือมุกอะไร ๆ ก็คงไม่สดใหม่อีกต่อไปแล้ว ว่ากันตามจริงดูตัวอย่างหนังก็แทบรู้เรื่องทั้งหมดแล้วด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องราวของสายลับนักฆ่าไร้นามที่ถูกลบประวัติเหลือเพียงตัวเลขเป็นชื่อแทนตัว มันก็มีเสน่ห์มาเสมอล่ะนะ
โดยดึงทีมผู้สร้างคิวทองจาก ‘Avengers: Endgame’ อย่างสองพี่น้อง แอนโธนี และ โจ รุสโซ (Anthony and Joe Russo) มากำกับ แม้ว่าผลงานก่อนหน้าของพวกเขาทั้งคู่อย่าง ‘Cherry’ (2021) ที่ขนาดได้ ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) พระเอกจากหนัง ‘Spider-man: No Way Home’ (2022) มารับบทนำให้บริการสตรีมมิงของ Apple TV+ จะพูดว่าประสบความสำเร็จได้ไม่เต็มปากก็ตาม
แต่ใครได้ดูก็ต้องยอมรับว่าหนังมีความเนี้ยบอยู่มาก ทว่าการตีความนิยายให้เล่าสนุกอาจไม่ค่อยได้ผลดีเท่าไรนัก กับเรื่องนี้ก็เช่นกันเหมือนสองพี่น้องรุสโซจะหาทางข้ามความเชยของตัวนิยายด้วยโปรดักชันเข้าว่าแทน
ซึ่งโปรดักชันที่ว่าแค่ไล่เรียงมาก็แทบเอาอยู่แบบไม่ต้องไปดูหนังจริงก็รู้ อย่างการเอาพระเอกมากเสน่ห์แห่งยุคสองคนมาปะทะกันให้สาว ๆ คลั่งตายทั้ง ไรอัน กอสลิง (Ryan Gosling) ในบทนักฆ่าหมายเลข 6 ที่ต้องหนีการตามล่าจาก คริส อีแวนส์ (Chris Evans) ที่ปรับลุกขรึมจากกัปตันอเมริกามารับบท ลอยด์ แฮนเซน นักล่าหนวดจิ๋มปากแจ๋วจนแปลกตา เอาว่าแค่นี้ก็ต้องดูแล้ว
เรื่องราวการโดนหักหลังของสายลับ ที่ถูกสั่งเก็บเพราะไปรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้ เนื้อเรื่องไม่แปลกใหม่คล้าย ๆ หนังตระกูล Bourne แต่ใครบ้างไม่ชอบแนวสายลับ ดำเนินเรื่องน่าติดตาม ความน่าเบื่อง่วงมีบ้างแต่ไม่มาก ส่วนใหญ่สนุก ลุ้นมันดี สอดแทรกความสัมพันธ์ลุงหลานที่ต้องได้รับการดูแลปกป้องจากหมายเลขหก ออกมาได้ลงตัว ดูมีเหตุให้บู๊
แต่กลายเป็นว่ามันแอบรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย พระเอกอย่าง Ryan Gosling ก็แสดงได้ดีนะ ฉากแอ็คชั่นก็เท่ดี แต่ส่วนตัวผมรู้สึกว่าตัวละครมันขาดเสน่ห์ไปนิดนึง ไม่ได้น่าจดจำมากเท่าไหร่ ส่วน Chris Evans ที่รับบทเป็นวายร้าย ผมก็มองว่ามันยังไม่ถึง เขาไม่ได้ดูร้ายหรือโรคจิตจนน่ากลัวอย่างที่คาดไว้ ส่วนตัวผมมองว่าตอนเขาแสดงเป็นตัวร้ายใน Knives Out (2019)
นั้นออกมาดีกว่าเรื่องนี้ ตอนนั้นดูมีเสน่มากกว่าและน่าจดจำมากกว่า เรื่องนี้แค่ดูเป็นคนบ้าๆ แต่ไม่ได้ดูน่าเกรงขามหรือน่ากลัวเท่าไหร่ มาต่อกันที่คนที่ผมชอบบ้าง นั่นคือ Ana de Armas เรื่องนี้เธอได้บู๊แบบจัดเต็มเลย หลังจากที่เธอเคยโชว์ฉากแอ็คชั่นมาแล้วใน No Time to Die (2021) มาเรื่องนี้เธอมีบทเยอะขึ้นมาก และก็แสดงได้ดีด้วย สวยเหมือนเดิม ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือก็แสดงได้ดีกันทุกคน ในด้านการแสดงไม่มีอะไรจะติมากนัก โดยรวมคือทุกคนทำได้ดีตามมาตรฐานทั่วไป
ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดในเน็ตฟลิกซ์ เพราะฉะนั้นรับประกันได้เลยว่า คุณภาพของโปรดักชั่นดีเยี่ยมอย่างแน่นอน รวมทั้งขนกองทัพนักแสดงแถวหน้าดีกรีเป็นพระเอกหนังดังร้อยล้านเหรียญสหรัฐมาถึง 2 คนอย่างไรอัน กอสลิ่ง และคริส อีแวนส์ พร้อมประกบนักแสดงสาวสวย อนา เดอ อาร์มัส ทำให้ภาพยนตร์มีความน่าดูเพิ่มมากขึ้นเลยทีเดียว
ส่วนในด้านของเนื้อเรื่องก็ต้องบอกเลยว่า โครงเรื่องของหนัง The Gray Man คล้ายกับหนังนักสืบ นักฆ่าเรื่องอื่นที่มีเพียงฉากไล่ล่ากันเท่านั้น สิ่งที่ทำให้น่าสนใจคงจะมีแต่การใช้เอฟเฟกต์สุดอลังการ ไม่ว่าจะเป็นฉากระเบิด ฉากต่อสู้ รวมทั้งฉากนั่งรถตุ๊ก ๆ เพื่อตามล่ากัน นับว่าเป็นฉากที่เรียกเสียงฮือฮาจากคนไทยได้ตลอดกาลจริง ๆ