What's happening?

Video Sources 304 Views Report Error

  • Watch trailer
  • Pinocchio (2022) พินอคคิโอ
Pinocchio (2022) พินอคคิโอ

Pinocchio (2022) พินอคคิโอ

USAPG-13
Your rating: 0
9 1 vote

Synopsis

Pinocchio (2022) พินอคคิโอ

เจพเพตโต ช่างไม้ผู้เปลี่ยวเหงาที่สร้างหุ่นจากไม้ไพน์และตั้งชื่อ พีน็อคคิโอ จนกระทั่งดาวอธิษฐานได้ทำให้คำขอของชายชราผู้นี้สมหวังและพิน็อคคิโอก็มีชีวิตขึ้นมา เพียงแต่เจ้าหุ่นไม้จะกลายเป็นเด็กชายได้จำเป็นต้องพิสูจน์ถึงจิตใจอันงดงาม กล้าหาญและเสียสละเสียก่อน แต่บทพิสูจน์ก็มาพร้อมสิ่งล่อใจที่พาให้พิน็อคคิโอออกนอกลู่นอกทางและเจพเพตโตก็จำเป็นต้องออกตามหาลูกชายที่เขาสร้างขึ้นมา ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา

แน่นอนว่าโลกแห่งเทพนิยายของ Pinocchio พวกเราส่วนใหญ่ต่างคุ้นเคยกันดี เจปเปตโต ช่างแกะสลักไม้ผู้สันโดษได้สร้างสรรค์หุ่นไม้ขึ้นมาตัวหนึ่ง แต่ราวกับปาฏิหารย์เกิดขึ้นเพราะเจ้าหุ่นเด็กน้อยตัวนี้กลับเคลื่อนไหวและพูดสื่อสารได้ราวกับมนุษย์คนหนึ่ง ทำให้เขามีชื่อเรียกว่า พิน็อคคิโอ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่แสนอัศจรรย์ใจของพินอคคิโอบนโลกใบนี้ ดูหนังออนไลน์

นี่คือการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของ “ทอม แฮงก์ส” กับผู้กำกับวิสัยทัศน์และจินตนาการล้ำเลิศ “โรเบิร์ต เซเม็กคิส”

น่าจะเป็นครั้งที่ 4 ของพวกเขา และนี่อาจจะไม่ใช่งานสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่อะไรของ โรเบิร์ต เซเม็กคิส เพราะเขาช่ำชองกับการสร้างหนังสไตล์แอนิเมชั่นโมชั่นมาหลายเรื่อง เช่น The Polar Express, Beowulf หรือ A Christmas Carol แต่นี่อาจจะเป็นงานผสมผสานระหว่างไลฟ์แอคชั่นกับแอนิเมชั่นเรื่องแรก ๆ ของเขา ดูหนังฟรี

Pinocchio (2022) พินอคคิโอ

หนึ่งในความทรงจำอันแสนหวานของเหล่าสาวกดิสนีย์คงหนีไม่พ้นฟุตเทจอินโทรสัญลักษณ์ปราสาทแห่งความสุขที่คลอไปด้วยเพลง ‘When you wish upon a star’ จาก ‘Pinocchio’ แอนิเมชันปี 1940 ที่อยู่ในดวงใจใครหลายคน ซึ่งแน่นอนว่าติดโผหนึ่งในโปรเจกต์ที่ดิสนีย์มองเห็นความเป็นไปได้ในการนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันตามหลังความสำเร็จของรุ่นพี่อย่าง ‘The Lion King’ และ ‘Aladdin’ เพียงแต่คราวนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ของฮอลลีวูดเลือกนำหนังลงแพลตฟอร์มสตรีมมิงแทนการฉายในโรงภาพยนตร์ ดูหนัง 

สำหรับฉบับภาพยนตร์คราวนี้ก็ยังคงเดินเรื่องตามฉบับแอนิเมชันเป๊ะ ๆ ถึงขั้นพยายามทำซีจีเจ้าพีน็อคคิโอให้เหมือนการ์ตูนในความทรงจำเสียด้วยซ้ำ และแน่นอนว่ามันยังคงเรื่องเล่าอันแสนประทับใจของ เจพเพตโต ช่างไม้ผู้เปลี่ยวเหงาที่สร้างหุ่นจากไม้ไพน์และตั้งชื่อ พีน็อคคิโอ จนกระทั่งดาวอธิษฐานได้ทำให้คำขอของชายชราผู้นี้สมหวังและพิน็อคคิโอก็มีชีวิตขึ้นมา เพียงแต่เจ้าหุ่นไม้จะกลายเป็นเด็กชายได้จำเป็นต้องพิสูจน์ถึงจิตใจอันงดงาม กล้าหาญและเสียสละเสียก่อน แต่บทพิสูจน์ก็มาพร้อมสิ่งล่อใจที่พาให้พิน็อคคิโอออกนอกลู่นอกทางและเจพเพตโตก็จำเป็นต้องออกตามหาลูกชายที่เขาสร้างขึ้นมา

ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาคงจะต้องบอกตรงไปตรงมาว่า ไม่ได้แย่แต่ก็ยังไม่ดีสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อนำเอาองค์ประกอบทั้งสองมาผนวกด้วยกัน ระหว่างคนแสดงกับแอนิเมชั่นมารวมกันไว้บนจอเดียวกันยังไม่ค่อยกลมกลืนสักเท่าไหร่ หนังดูสมูทยิ่งกว่าเมื่อถึงซีนที่เต็มไปด้วยแอนิเมชั่นต่อบทกันไปมา แต่เมื่อต้องมาแสดงร่วมกับคนจริง ๆ กลับยังดูภาพโดดเด้งค่อนข้างชัด ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่น่าเสียดายที่ยอดฝีมือยังค่อนข้างดึงจุดเด่นในด้านนี้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร

เมื่อมารวมกับเรื่องราวของ Pinocchio (2022) พินอคคิโอ เป็นเทพนิยายและนิทานที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ

ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อีกทั้งนี่คือบทประพันธ์ที่มักจะถูกหยิบนำมาสร้างอยู่บ่อยครั้ง เมื่อนำมาเล่าอีกในเรื่องนี้ หลาย ๆ อย่างก็แทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย แม้จะพยายามแล้วก็ตาท แต่ทุกอย่างยังคงอยู่บนพื้นฐานและเคารพต้นฉบับแบบเดิม จุดที่ทำการตีความออกมาใหม่ก็ยังไม่ทำให้คนดูว้าวเท่าไหร่ จึงกลายเป็นหนังไลฟ์แอคชั่นที่รสชาติค่อนข้างจืด และค่อนข้างซ้ำซากไปนิด

Pinocchio (2022) พินอคคิโอ

แน่นอนว่างานไลฟ์ แอ็กชันที่ผสมผสานคนแสดงกับเทคนิคพิเศษแบบนี้จะออกมาดีได้ย่อมไม่ใช่ผ่านผู้กำกับมือใหม่แน่นอน และเป็น โรเบิร์ต เซเม็กคิส (Robert Zemeckis) ที่ดิสนีย์เลือกใช้บริการในคราวนี้ แต่ผลปรากฎว่านอกจากความว้าวของฉากนาฬิกาปลุกคุกคูของเจพเพตโตที่เหมือนเอาการ์ตูนดิสนีย์สุดฮิตโผล่มาเซอร์ไพร์สคนดู ทั้ง วูดดี้ จาก ‘Toy Story’ ตัวละครดังที่ ทอม แฮงก์ส (Tom Hanks) ผู้รับบทเจพเพตโตเคยให้เสียงลามไปจนถึงตัวละครดิสนีย์ดัง ๆ ทั้ง ‘The Lion King’ ‘Sleeping Beauty’ ‘Dumbo’ ‘Snow White and the Seven Dwarves’ ไปจนถึงตัวละครจาก ‘Who Framed Roger Rabbit’ หนังของเซเม็กคิสเอง แต่นอกจากไอเดียสดใหม่ในฉากสั้น ๆ แล้วหนังทั้งเรื่องก็แทบไม่มีความสร้างสรรค์ใด ๆ ที่เราสัมผัสได้เลย

บทภาพยนตร์ที่เซเม็กคิสเขียนกับ คริส ไวต์ซ (Chris Weitz) แทบจะลอกลายการ์ตูนปี 1940 แทบไม่มีผิดเพี้ยนเพียงแต่สิ่งที่ขาดหายไปกลับเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้พิน็อคคิโอกลายเป็นที่รักของคนดูซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่สีสันของหุ่นไม้หน้าตาน่ารักและหมวกเหลืองคาดฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ที่เซเม็กคิสเอามาเท่านั้น แต่เป็นเรื่องราวจังหวะจะโคนการเล่าเรื่องที่ละมุนละไมอันหาไม่ได้จากฉบับหนังกึ่งติ๊กต็อก (Tik Tok) ฉบับนี้ ที่ทุกอย่างถูกเร่งสปีดราวกลัวว่าคนรุ่นใหม่จะทนดูไม่ได้จนสุนทรียะต่าง ๆ ที่ผู้ชมเคยได้จากฉบับแอนิเมชันขาดหายไปอย่างน่าเสียดาย

ถ้าหากว่าลองเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นหนังไลฟ์แอคชั่นของอิตาลี ที่ “มัตเตโอ การ์โรเน” เพิ่งนำเอาไปสร้างใหม่ เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าหนังฉบับนั้นจะไม่ได้เป็นหนังที่สมบูรณ์แบบอะไรก็ตาม แต่กลับพบว่าตัวหนังมีจิตวิญญาณและความละมุนละไมมากกว่า Pinocchio ฉบับของดิสนีย์เรื่องนี้เสียอีก ทั้งนี้ก็ยังไม่ใจเช่นเดียวกันว่า หรือเราในฐานะคนดูคาดหวังมากเกินไป แต่ก็มั่นใจว่าไม่ได้มีความคาดหวังใด ๆ ก่อนจะดู แต่ในฉบับนี้ถือว่ายังไม่น่าประทับใจเท่าไหร่

ส่วนองค์ประกอบทางด้านการแสดง ก็ต้องยอมรับนั่นแหละว่า ทอม แฮงก์ส ก็คือนักแสดงมืออาชีพ

ที่แสดงแค่นิดนึงก็ทรงพลังแล้ว เพียงแต่ Pinocchio นั้น ไม่ได้มีเขาเป็นตัวละครแกนหลักของเรื่องแต่อย่างใด เขาจึงมีพลังเป็นนายแบกหนังเรื่องนี้เอาไว้ไม่ได้ ขณะที่ “โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์” ที่มาให้เสียงพากย์เป็น เจมินี คริกเก็ต ที่ดูเหมือนจะมีอะไรที่แตกต่าง แต่กลับไม่ได้ขับเคลื่อนความพิเศษออกได้สักเท่าไหร่

Pinocchio (2022) พินอคคิโอ

แถมดราม่าเรื่องนางฟ้าใจดีที่ได้ ซินเธีย เอรีโว (Cynthia Erivo) นักแสดงผิวดำมารับบทนี้ตั้งแต่ตอนปล่อยตัวอย่างหนังออกมา ซึ่งส่วนตัวไม่มีปัญหานะครับ ออกจะเข้าใจด้วยซ้ำเพราะเอริโวก็มีพรสวรรค์ด้านเสียงร้องมาก แต่ที่ไม่เข้าใจคือหนังก็ไม่อธิบายว่าทำไมนางฟ้าต้องผิวดำที่สำคัญคือนางก็ออกมาฉากเดียวเสียด้วยจนงงว่าเหตุผลแท้จริงที่ต้องมีตัวละครหลากสีผิวคืออะไรกันแน่

และมันยังเป็นหนึ่งในหลายองค์ประกอบที่ทำให้ ‘Pinocchio’ ฉบับนี้ดูผิดที่ผิดทางทั้งการเอานิทานอิตาลีประจำเมืองฟลอเรนซ์มาเล่าแล้วเอานักแสดงผิวดำมารับบทแทนคนขาวแบบไร้เหตุผล ไปจนถึงฉากหลังที่ดูไม่ออกเลยว่านี่คือประเทศอิตาลีทั้งที่ข้อมูลการถ่ายทำคือหนังยกไปถ่ายกันถึงทอสคานี ประเทศอิตาลีจริง ๆ แต่ฉากที่หนังนำเสนอก็ดูจะเสียของไปสักหน่อย ไปจนถึงการใช้ซีจีอันบ้าคลั่งที่ยอมรับเลยว่ามันผลักคนดูออกจากหนังแทบจะตลอดเวลาจริง ๆ

แต่อะไรก็ไม่น่าเสียดายเท่าการที่หนังได้ ทอม แฮงก์ส มารับบทเจพเพตโต บทที่น่าจะส่งให้แฮงก์สได้เล่นบทดราม่าเรียกน้ำตาได้ง่าย ๆ แต่ปรากฎว่าคราวนี้ เซเม็กคิสก็ยังคงให้แฮงก์สต้องแสดงอย่างโดดเดี่ยวเหมือนตอนร่วมงานกันใน ‘Cast Away’ ที่คราวนั้นแฮงก์สอาจได้คุยแค่ลูกบาสวิลสัน แต่คราวนี้เหมือนลุงแฮงก์สจะยิ่งเหงากว่าเดิมเพราะต้องแสดงกับหุ่นซีจีไม่พอ ยังมีปลาทองซีจี แล้วก็แมวซีจี แถมองค์ประกอบการแสดงของแฮงก์สที่ดูการ์ตู๊นการ์ตูนยังดูเวอร์กว่า มูฟเมนต์ของซีจี จนภาพรวมการแสดงออกมาดูปลอม ขาด ๆ เกิน ๆ จนเหมือนเอาทอม แฮงก์สมาฆ่าให้ตายคาจอก็ไม่ผิดนัก

ทางด้านงานออกแบบศิลป์ต่าง ๆ ต้องยอมรับว่า โรเบิร์ต เซเม็กคิส ยังคงใช้ทักษะและจินตนาการของเขาได้เป็นอย่างดี Pinocchio (2022) พินอคคิโอ

เพียงแต่วิสัยทัศน์ของเขายังไม่สามารถสร้างความแปลกใหม่ให้กับหนังเรื่องนี้ได้สักเท่าไหร่ งานออกแบบฉากและองค์ประกอบศิลป์ต่าง ๆ ทำได้ดี งานเทคนิคพิเศษก็น่าพอใจ เพียงแต่แค่เหมือนนำองค์ประกอบมารวม ๆ กันแล้วนั้น ความกลมกล่อมของหนังทั้งเรื่องยังห่างไกลจากความเพอร์เฟคอยู่

เอาเป็นว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น Pinocchio ในฉบับคนแสดงของดิสนีย์เรื่องนี้นั้น แอบค่อนข้างน่าผิดหวังไปสักหน่อย องค์ประกอบต่าง ๆ ยังไม่กลมกล่อม การผนวกเข้ากันระหว่างคนแสดงกับแอนิเมชั่นยังไม่ค่อยละมุนเข้ากันได้ดี บทหนังมีเส้นเรื่องที่แข็งแรงดี แต่ก็ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่และแตกต่างใด ๆ แทบไม่ต่างจากพิน็อคคิโอฉบับอื่น ๆ แม้ว่าจะไม่ได้คาดหวังแต่หนังก็แอบทำให้รู้สึกผิดหวังเบา ๆ และยังค่อนข้างห่างชั้นจากต้นฉบับเวอร์ชั่นการ์ตูนคลาสสิกอยู่อีกไกลโข

เมื่อนักแสดงเจ้าของสองรางวัลออสการ์ ทอม แฮงค์ และผู้กำกับวิสัยทัศน์กว้างไกล โรเบิร์ต เซเมกคิส มาเจอกันทีไร มักเกิดความอัศจรรย์บนแผ่นฟิล์มมาโดยตลอด

นับตั้งแต่ Forrest Gump (1994) ที่ชีวิตอันแสนมหัศจรรย์ได้อย่างน่าประทับใจ ต่อด้วย Cast Away (2000) หนังที่เล่าถึงชีวิตชายติดเกาะที่ไม่เหมือนใคร และ The Polar Express (2004) หนังแห่งการเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ซึ่งตอนนั้น แฮงค์ เหมาเล่นคนเดียวไป 6 บน จนกระทั่งล่าสุดพวกเขากลับมาเจอกันอีกครั้งในโปรเจกต์รีเมกแอนิเมชั่นคลาสสิก Pinocchio เวอร์ชั่น Live-Action หนังจากดิสนีย์สร้างฉบับการ์ตูน ผ่านมา 80 กว่าปี มีหนังพินอคคิโอมากมายหลายฉบับ แต่ หนังที่ดิสนีย์รีเมกเองนั้นยังไม่เคยมีมาก่อน จนกระทั่งตอนนี้

แม้ผู้ชมจะพอรู้เส้นเรื่อง หรือเคยดูหนัง Pinocchio หลากหลายฉบับมาก่อนแล้ว แต่หนังในฉบับนี้ ก็ยังสร้างความสดใหม่ให้เรื่องราวได้ ด้วยองค์ประกอบต่างๆ แม้หนังจะเริ่มต้นด้วยเส้นเรื่องที่ผู้ชมคุ้นเคย แต่เมื่อ พินอคคิโอ ออกจากบ้าน ดิสนีย์ก็ได้ค่อยๆแต่งเติม สร้างสีสันที่แปลกใหม่ จนกระทั่งนำไปสู่องก์สุดท้ายของหนัง ที่มาพร้อมกับไคลแมกซ์ และบทสรุปที่แตกต่างไปจากเดิม นอกจากเส้นเรื่องที่ไม่ซ้ำเดิมแล้ว ดิสนีย์ยังเลือกใส่ Easter Egg เกี่ยวกับดิสนีย์เองเข้ามาเบาๆ ถ้าใครสังเกตทันก็จะเห็นถึงความขี้เล่นของค่าย แต่แม้ว่าตัวบทอาจจะมีอะไรแปลกไปจากเดิม แต่หัวใจของเรื่อง Pinocchio ก็ยังอยู่อย่างครบถ้วน ยังคงให้อารมณ์สุดประทับใจกับผู้ชมได้แทบตลอดทั้งเรื่อง

Original title Pinocchio (2022) พินอคคิโอ
TMDb Rating 113 369 votes

Director

Director

Cast

Similar titles

The Mad Womens Ball (2021)
Cities of Last Things นครเริงแค้น
My Next Life as a Villainess: All Routes Lead to Doom! The Movie เกิดใหม่เป็นนางร้าย จะเลือกทางไหนก็หายนะ เดอะมูฟวี่ (2023)
The Goldfinch โกลด์ฟินช์
Christmas with You คริสต์มาสนี้… ขอมีเธอ (2022) NETFLIX
Little Big Man (1970) นรกสั่งฆ่า
Cast Away คนหลุดโลก
The Change Up (2011) คู่ต่างขั้ว รั่วสลับร่าง
Monster (Kaibutsu) มอนสเตอร์ (2023)
The Retirement Plan โจ๋วัยเก๋า (2023) บรรยายไทย
The Shaolin Avengers ไอ้หนุ่มมนุษย์เหล็ก
My Happy Marriage (Watashi no shiawasena kekkon) ขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข (2023)

Leave a comment

Name *
Add a display name
Email *
Your email address will not be published