แดง พระโขนง (2022) Daeng Phra Khanong
แดง พระโขนง วันนี้ทางเว็บไซต์ของเรา มีภาพยนตร์เรื่องใหม่ของไทย อย่าง “แดง พระโขนง” เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของ “แจ็ค แฟนฉัน” หรือ “เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์” ดูหนังฟรี ที่รับบทกำกับเรื่องแรกพร้อมกับ “เอ็กซ์ วัชรพงษ์ ปัทมะ” สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจการดำเนินเรื่องของหนัง ดูหนังออนไลน์ ก็คงจะคิดว่า “แดง พระโขนง” จะเป็นหนังแแนวเดียวกันกับ “พี่มากพระโขนง” ที่ได้จบไปแล้วหรือไม่ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
อย่างการนำเอาแนวสยองขวัญ มาผสมผสานความตลกผ่านเด็กๆในพระโขนง แต่ถ้ารวมๆแล้วก็ไม่ต่างกันกับหนังภาคต่อจากพี่มากสักเท่าไหร่ จะต่างกันแค่ “แดง พระโขนง” จะเป็นผีที่ชาวบ้านรักเอ็นดูเหมือนลูกหลาน มันเป็นแนวคิดที่ดูมีวุฒิภาวะมากอันนี้ขอชื่นชมเลย ดูหนัง
โดนสมเด็จโตปราบและได้นำปั้นเหน่งของนางนากไปบำเพ็ญเพียรกับพระมาก ทุ่งพระโขนงจึงกลับมามีความสงบสุข 10 ปีต่อมามีผีเด็กอาละวาดทำร้ายคนในทุ่งพระโขนงอีกครั้ง ชาวบ้านหวาดผวาว่าเป็นฝีมือของ ไอ้แดง ลูกของนางนากที่สมเด็จโตไม่ได้นำร่างไปบำเพ็ญเพียรด้วย ทำให้ชาวบ้านทุ่งพระโขนงหวาดผวาและหาทางที่จะทำให้หมู่บ้านกลับมาสงบสุขให้ได้
บอล-วิทยา กล่าวว่า “ตอนที่เขากำกับหนัง ก็มีโทรมาเล่าให้ฟังเป็นระยะ ๆ และให้ความมั่นใจแจ็คตลอด พอมีหนังที่มู้ดต้องตลกก็คิดว่าเขาน่าจะทำได้ นิยามของหนังเรื่องนี้ในมุมของผมคือ แจ็คและเอ็กซ์ที่เป็นเพื่อนกันนาน มากำกับร่วมกัน เหมือนหนังพูดถึงเรื่องเพื่อนที่ทำด้วยเพื่อน 2 คน คิดว่าคนนึงเชี่ยวชาญเรื่องตลก อีกคนเชี่ยวชาญทางการทำภาพยนตร์ ทั้งคู่เติมเต็มกันพอดี หนังเรื่องนี้มีครบทุกรส”
เขาเป็นเพื่อนกับแจ็คสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเลย เราสนิทกัน เอ็กซ์กับแจ็คเป็นเพื่อนกัน ก็เหมือนกับพวกผมที่เป็นเพื่อนกันและเริ่มจากการทำหนังเด็กด้วยกัน พอดูแล้วนึกถึงตอนที่เรารวมตัวกำกับหนังเรื่องแรกในชีวิตกัน ไปดูแล้วก็ขำมาก ผมชอบ “เฮง” ที่แสดงโดย ไบค์วีค พอน้องเฮงออกมาผมขำข้ามไปอีก 2 ซีนเลย เป็นหนังน่ารักและตลกแบบเด็ก ๆ รวมไปถึงมีนักแสดงตลกมืออาชีพด้วย จริง ๆ ผมเป็นผู้ช่วยผู้กำกับหนังเรื่อง “นางนาก” ที่กำกับโดย พี่อุ๋ย-นนทรีย์ พอดูแล้วเราก็นึกขึ้นได้ว่า เออ! เราไม่เคยนึกถึง “แดง” เลย เหมือนเขาเป็นบุคคลที่ถูกลืม เป็นอะไรที่ใหม่และเป็นเรื่องที่คนในประเทศไทยรู้จักดี อยากให้ทุกคนไปดูหนังแม่นาก ที่แตกแยกย่อยเหมือนจักรวาลมาร์เวล อยากให้มาดูกันจะได้รู้สึกกลับไปถึงแม่นากแล้วกลับมาซาบซึ้งกับเรื่องของ “แดง” ที่เคยหายไปจากเรื่องเล่าครับ”
ดีใจกับน้องคนหนึ่งที่เห็นเขามาตั้งแต่วันแรก ๆ วันนี้เขามีหนังของตัวเอง เหมือนเราได้เห็นตัวเองวันก่อน ๆ หนังเรื่องนี้เป็นหนังมิตรภาพ ความน่าสนใจอยู่ตรงที่เอาเรื่องแม่นากพี่มากมาเล่าในมุมเด็ก ดูแล้วประทับใจความสัมพันธ์ของคนครับ” เต็มไปด้วยความฮาพร้อมกับความน่ารักของเหล่าเด็กๆ ที่ดูได้ทุกเพศทุกวัยเลยครับ
ในหนังแทรกความตลกมาในทุกอณูเลยครับ เอาเป็นว่าแต่เห็นหน้านักแสดงก็ฮาแล้วครับ ส่วนฉากผีส่วนตัวมองว่าหนังทำออกมาได้น่ากลัวพอสมควรครับ และมีฉากตุ้งแฉเยอะอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีฉากชวนซึ้งจนน้ำตาคลอเบ้าอีกด้วยครับ และสิ่งที่ไม่อยากไม่ให้พลาดกันนั้นก็คือ ฉากสุดเซอร์ไพรส์ในช่วงท้ายที่บอดเลยว่าว้าวกันแน่นอนครับ แล้วใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์ความหลอนปนเสียงฮาแบบนี้ก็ไม่ควรพลาดครับ
ประการแรก จากตัวอย่างหนังเราอาจเข้าใจว่ามันเป็นหนังแบบเดียวกับ ‘พี่มากพระโขนง’ ที่ออกมาก่อนหน้านี้เป็นสยองขวัญผสมตลกผ่านสายตาของกลุ่มเด็กในพระโขนง ซึ่งก็ทำให้ดูแปลกใหม่และแตกต่างจากหนังก่อนหน้าอยู่แล้ว แต่ทว่าเอาจริงหนังเรื่องนี้ยกระดับไปเป็นอีกมโนทัศน์หนึ่งเลย มันเป็นหนังที่เหมือนภาคต่อหลังจากพี่มากซึ่งชาวบ้านมีทัศนคติต่อผีที่ดีที่ไม่เป็นภัยได้แล้ว และชาวบ้านก็อยู่ร่วมกันกับไอ้แดงเหมือนเป็นเด็กไม่มีพ่อแม่ที่ชาวบ้านพระโขนงเอ็นดูช่วยกันเลี้ยงดูอยู่ห่าง ๆ มันเป็นแนวคิดที่ดูมีวุฒิภาวะมากอันนี้ขอชื่นชมเลย
ที่เกิดแนวคิดดังกล่าวขึ้นมา ก่อนจะนำไปปรึกษา “หม่ำ จ๊กม๊ก” ที่ร่วมแสดงและทำหน้าที่อำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ให้กับ ภายใต้งานสร้างของบั้งไฟ ฟิล์ม ของเขา แต่ความเป็นจริงแล้ว แจ็คเพิ่งจะถูกแฉมาหมาด ๆ ว่า…เขาลงพื้นที่มากองถ่ายในฐานะผู้กำกับแค่เพียง 2 คิวเท่านั้นเอง (แต่ก็ได้เครดิตเป็นผู้กำกับอยู่นะ)
แม้ว่าจะมีไอเดียที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย แต่การนำมาเล่าเรื่องและการกลั่นกรองออกมาเป็นบทหนังยังค่อนข้างล้มเหลว ไม่ต่างกับหนังตลกไร้สาระทีหาความบันเทิงใจเกือบจะไม่ได้เลย มุกตลกก็เต็มไปด้วยมุกโบราณที่ล้าสมัย ไม่ว่าจะเป็นมุกเหยียดผิว-เหยียดอัตลักษณ์บุคคล ที่ปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่ขำขัน แต่เป็นการคุกคามทางวาจาประเภทหนึ่งไปเสียแล้ว
แต่หนังก็ยังเป็นหนังมันต้องมีความขัดแย้งให้เรื่องเดินได้ ดังนั้นบทจึงให้ชาวบ้านในเรื่องเลือกไม่บอกพวกลูกหลานเรื่องไอ้แดงเป็นผี เพื่อให้เด็ก ๆ ได้สนิทกันไม่ตะขิดตะขวงใจ ทำให้เกิดสถานการณ์เด็กหัวโจกเริ่มสงสัยไอ้แดงและพยายามพิสูจน์ว่าเป็นผีด้วยวิธีต่าง ๆ ที่พอได้เห็นในตัวอย่างหนังบ้างแล้ว
และน่าจะเห็นพ้องต้องกันว่ามีความคล้าย แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ สมัยเล่นหนัง ‘แฟนฉัน’ ไม่น้อย ซึ่งก็ทราบว่าเป็นความตั้งใจของแจ็คจริง ๆ อันนี้ทำให้เข้าใจได้ว่าแจ็คก็อยากลองเลียนสูตรสำเร็จบางประการคือถึงพรสวรรค์ไม่สูง แต่พรแสวงและประสบการณ์ที่คลุกคลีทีมงานหนังที่ประสบความสำเร็จมานาน ก็ก่อร่างสร้างแจ็คที่มีแนวทางการทำหนังของตนเองได้
การเล่าเรื่องที่พยายามยัดเยียดให้เห็นถึงมิตรภาพของแก๊งเด็กทุ่งพระโขนง ให้ความรู้สึกเหมือนย้ำคิดย้ำทำ ฉากละแวกนี้คล้ายกับนั่งดูละครก่อนข่าวที่ยืดไปมาและนำไปตัดเข้าโฆษณาได้ เนื้อเรื่องแทบจะไม่เดิน เด็ก ๆ ก็ต้องมาเล่นมุกตลกที่ผู้ใหญ่ยัดเยียดให้เล่นไปตามน้ำ เป็นอะไรที่พยายามจะทำให้ตลก แต่กลับไม่ตลก เพราะมุกที่พวกเด็ก ๆ เล่นออกมานั้น คือการเหยียดมนุษย์กันเองทั้งนั้น
ซาวน์ดนตรีก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่…ทำให้รำคาญใจ เปิดฉากมาเริ่มแรกก็รู้สึกเพลินดีอยู่ เพราะหนังใช้ซาวน์ประกอบเดียวกันกับ นางนาก หนังเวอร์ชั่นปี 2542 ที่ทำให้รู้สึกสะพรึงและขนลุกไปกับความทรงจำที่หวนคิดถึง แต่พอหนังดำเนินไปเรื่อย ๆ แบบไม่ค่อยได้เคลื่อนที่เนื้อเรื่องไปไหน ซาวน์ที่ว่าน่าหลงใหลนี้กลับเป็นสิ่งที่รู้สึกหงุดหงิดที่เดี๋ยวตัดใส่ ๆ วนไปเรื่อยอยู่ตลอดทั้งเรื่อง
แต่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยแม้แต่น้อย เป็นนักแสดงตลกที่หยอดเข้าไปเป็นตัวโจ๊กคนละเล็กคนละน้อย บางตัวละครใส่มาให้เต็ม บางคาแรกเตอร์ก็ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต่แคสติ้งนักแสดงเด็ก ๆ ก็ถือว่าพวกเขาทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ แม้ว่าจะยังไม่ได้ดีเลิศอะไร แต่ก็มีศักยภาพเพียงพอที่จะช่วยกันพยุงหนังทั้งเรื่องให้ไปตลอดรอดฝั่ง ในแบบอารมณ์หวานอมขมกลืน
กลับสามารถพลิกหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างกะทันหัน เพียงแค่ในช่วงเวลา 10 นาทีสุดท้ายของเรื่อง กับอีสเตอร์เอ้กของหนังที่กลายเป็นองค์ประกอบที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ไปโดยปริยาย แค่ฉากเดียวสามารถพลิกสถานการณ์ให้กับ แดง พระโขนง ไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จนต้องยอมสารภาพตรง ๆ เลยว่าเผลออุทานร้อง “ว้าวววว!” ออกมาโดยอัตโนมัติเลยทีเดียว
หนังมีความเป็น ‘แฟนฉัน’ ในบางแง่มุม มันพูดเรื่องมิตรภาพที่บริสุทธิ์มาก ๆ และก็แบบเด็ก ๆ อะไรที่ผิดแผกจากความปกติเล็กน้อยก็อาจขยายกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เหมือนแบบสมัยเด็กเพื่อนเหยียบขี้หมาก็แบบจะไล่ให้ออกจากกลุ่มไปหรืออาจล้อกันข้ามเดือน แต่นี่เพื่อนเป็นผีมันก็ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ แต่ในแง่มุมที่ดีคือเด็กเขาคืนดีกันง่ายและคิดไม่เยอะเท่าผู้ใหญ่ ทำให้อารมณ์ของหนังไม่หนักเกินไป ดูได้ทั้งครอบครัว
แต่ก็มีจุดติงบ้างว่าหนังยังมีแนวคิดแบบไทยจ๋า (ซึ่งเข้าใจได้เพราะกลุ่มเป้าหมายคือคนไทยวงกว้าง) ที่ยังเล่นตลกกับเรื่องรูปร่างหน้าตา ผิวดำ ตัวอ้วน ตาเข ยิ่งเราเพิ่งมีเรื่องภรรยาของ วิล สมิธ ในงานออสการ์มาด้วยมันก็เป็นอารมณ์แปลก ๆ ดีที่สังคมบ้านเราก็ยังชอบดูหนังที่ใช้จริตแบบนี้กันอยู่ได้ตลอด อันนี้ไม่โทษคนทำหนังด้วยเพราะยอมรับว่าคนไทยก็ยังตลกกับอะไรแบบนี้จริง ๆ แต่ก็แค่ตะหงิดไม่ถึงกับทำให้หนังดูแย่หรอกครับ แค่อยากฝากไว้ในอนาคต
รวมถึงน้องที่รับบทเป็นโจอี้ ผิวสี และน้องมะลิ เด็กหญิงนางเอกของเรื่อง ถือว่ามีเสน่ห์บนจอมาก ซึ่งกลับกันในส่วนของแคสต์ผู้ใหญ่ โดยเฉพาะตัวละครพี่หม่ำ แกจะเมาอะไรทั้งเรื่องขนาดน้าน พี่ๆคณะตลกก็เล่นมุกที่ไม่ค่อยซื้อนัก หลายมุกมีความbody shaming and bullyอยู่พอตัว แต่ถ้าปล่อยผ่านก็ฮาครืน ฮากริบๆกันไป แต่เราอาจไม่ค่อยฟีลกับมุกประมาณนี้แล้ว พอเล่นกันเยอะเลยรู้สึกว่าหนังมันย้วยไปหน่อย พอมีมาเยอะเกิน แอบเสียดายAir Timeที่น่าจะใช้ให้คุ้มค่าหรือผูกปมกับตัวละครในช่วงต้นเรื่องมากกว่านี้ได้
หนังมีความเป็น ‘แฟนฉัน’ ในบางแง่มุม มันพูดเรื่องมิตรภาพที่บริสุทธิ์มาก ๆ และก็แบบเด็ก ๆ อะไรที่ผิดแผกจากความปกติเล็กน้อยก็อาจขยายกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เหมือนแบบสมัยเด็กเพื่อนเหยียบขี้หมาก็แบบจะไล่ให้ออกจากกลุ่มไปหรืออาจล้อกันข้ามเดือน แต่นี่เพื่อนเป็นผีมันก็ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ แต่ในแง่มุมที่ดีคือเด็กเขาคืนดีกันง่ายและคิดไม่เยอะเท่าผู้ใหญ่ ทำให้อารมณ์ของหนังไม่หนักเกินไป ดูได้ทั้งครอบครัว
แต่ก็มีจุดติงบ้างว่าหนังยังมีแนวคิดแบบไทยจ๋า (ซึ่งเข้าใจได้เพราะกลุ่มเป้าหมายคือคนไทยวงกว้าง) ที่ยังเล่นตลกกับเรื่องรูปร่างหน้าตา ผิวดำ ตัวอ้วน ตาเข ยิ่งเราเพิ่งมีเรื่องภรรยาของ วิล สมิธ ในงานออสการ์มาด้วยมันก็เป็นอารมณ์แปลก ๆ ดีที่สังคมบ้านเราก็ยังชอบดูหนังที่ใช้จริตแบบนี้กันอยู่ได้ตลอด อันนี้ไม่โทษคนทำหนังด้วยเพราะยอมรับว่าคนไทยก็ยังตลกกับอะไรแบบนี้จริง ๆ แต่ก็แค่ตะหงิดไม่ถึงกับทำให้หนังดูแย่หรอกครับ แค่อยากฝากไว้ในอนาคต